-
Melaka Straits Mosque
-
Pangkor Laut Resort
-
Batu Caves
-
Boh Tea Plantation (Cameron Highlands)
-
Semenggok Orangutan Rehabilitation Centre
โบสถ์เซนต์พอล “St. Paul’s Church ” มะละกา
โบสถ์เซนต์พอล “St. Paul’s Church ” แห่งมะละกา ตั้งอยู่บนยอดเนิน St. Paul’s hill
![01](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/01-9.jpg)
ทางขึ้นโบสถ์เซนต์พอล “St. Paul’s Church ” ก็จะต้องเดินลอดผ่านป้อมปราการ A’Famosa หรือ Porta De Santiago ที่ตั้งอยู่ด้านล่างเนินเขา
![](http://www.malaysiafanclub.com/images/uncledeng/melaka-malacca/Attraction/A-Famosa-Porta-De-Santiago/15.jpg)
ในปี 1521 โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยกัปตันเรือชาวโปรตุเกส นามว่า ดอร์เต้ โคเอลโฮ
และใช้ชื่อโบสถ์ว่า “Nosa Senhora” หรือ Our Lady of the Hill. ด้วยความตั้งใจให้เป็นโบสถ์ของชาวโปรตุเกสที่ใหญ่ที่สุดในมะละกา
![02](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/02-9.jpg)
ในปี 1641 เมื่อครั้งที่พวกดัตช์ เข้ายึดคลองได้เปลี่ยนชื่อโบสถ์แห่งนี้เป็น ST. Paul’s Church
เพื่อใช้โบสถ์แห่งนี้ประกอบพิธีทางศาสนาเป็นการชั่วคราว ขณะเดียวกันชาวดัตช์ได้สร้าง โบสถ์แดง แห่งมะละกา “Christ Church Melaka” ให้เป็นโบสถ์ของชาวดัตช์ 100%สามารถติดตามเรื่องราวของโบสถ์แดงได้ที่ Link ด้านล่างนี้ครับ
ตลุยมาเลเซีย #3 : โบสถ์แดง แห่งมะละกา “Christ Church Melaka” สร้างโดยชาวดัตช์
http://www.malaysiafanclub.com/index.php?topic=52.msg918#msg918
เพื่อใช้โบสถ์แห่งนี้ประกอบพิธีทางศาสนาเป็นการชั่วคราว ขณะเดียวกันชาวดัตช์ได้สร้าง โบสถ์แดง แห่งมะละกา “Christ Church Melaka” ให้เป็นโบสถ์ของชาวดัตช์ 100%สามารถติดตามเรื่องราวของโบสถ์แดงได้ที่ Link ด้านล่างนี้ครับ
ตลุยมาเลเซีย #3 : โบสถ์แดง แห่งมะละกา “Christ Church Melaka” สร้างโดยชาวดัตช์
http://www.malaysiafanclub.com/index.php?topic=52.msg918#msg918
![04](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/04-8.jpg)
หลังจากที่ โบสถ์แดง แห่งมะละกา “Christ Church Melaka” ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
โบสถ์เซนต์พอล ก็ไม่ได้ใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาอีกต่อไป
และเปลี่ยนเป็นสุสานฝั่งศพของบุคคลสำคัญ
โบสถ์เซนต์พอล ก็ไม่ได้ใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาอีกต่อไป
และเปลี่ยนเป็นสุสานฝั่งศพของบุคคลสำคัญ
![05](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/05-8.jpg)
ศิลาหน้าหลุมฝังศพ บุคคลสำคัญ ถูกวางเรียงชิดผนัง
![06](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/06-8.jpg)
ความงดงามของ ศิลาหน้าหลุมฝังศพ ตัวอักษรบนแผ่นหินสลักเป็นภาษาดัตช์ (ชาวเนเธอร์แลนด์ หรือ ชาวดัตช์)
![14](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/14-7.jpg)
พักสายตากันหน่อยครับ กับลีลาการถ่ายภาพของเพื่อนที่เดินทางไปด้วยกัน
ลองทายดูครับว่า กำลังถ่ายรูปอะไร???เดี๋ยวจะเฉลยตอนท้ายรีิวิวครับ![ยิงฟันยิ้ม](http://www.malaysiafanclub.com/Smileys/default/grin.gif)
ลองทายดูครับว่า กำลังถ่ายรูปอะไร???เดี๋ยวจะเฉลยตอนท้ายรีิวิวครับ
![ยิงฟันยิ้ม](http://www.malaysiafanclub.com/Smileys/default/grin.gif)
![08](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/08-8.jpg)
บริเวณด้านหน้าของโบสถ์เซนต์พอล “St. Paul’s Church ” จะพบกับรูปแกะสลักหินอ่อนสีขาว นักบุญฟรานซิส เซเวียร์
รูปแกะสลักนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1952 ถ้าสังเกตุดีๆ จะเป็นว่ารูปแกะสลัก
ของนักบุญฟรานซิส เซเวียร์ “St. Francis Xavier” นั้นมือขวาขาดเนื่องจากต้นไม้ใหญ่บริเวณนั้นล้ม จะทำให้มือด้านขวานั้นหักลงจนถึงทุกวันนี้ประวัติของนักบุญฟรานซิส เซเวียร์
นักบุญฟรานซิส เซเวียร์ท่านนี้ได้รับฉายาว่าเป็น “อัครสาวกแห่งอินเดีย” (the Apostle of Indies)
ด้วยเหตุที่ท่านเผยแผ่พระศาสนาคู่ขนานไปกับเส้นทางอาณานิคมของพวกโปรตุเกส อันได้แก่ อินเดีย จีน ญี่ปุ่น บอร์เนียวและหมู่เกาะโมลุกกะนักบุญฟรานซิส เซเวียร์ถึงแก่มรณภาพที่เกาะฉางชวน (Shangchaun) ใกล้กับเมืองกวางตุ้งเมื่อปี 1552
ซึ่งท่านถูกฝังชั่วคราวที่นั่นแล้วจึงถูกเคลื่อนย้ายมายังมะละกา และต่อมายังเมืองกัวหรือโกว่า (Goa) ประเทศอินเดียอันเป็นฐานสำคัญ
ในการบัญชาการควบคุมทั้งเอเชียของโปรตุเกสเมื่อปี 1553อัฐิอันเป็นท่อนแขนล่างตลอดรวมไปถึงมือข้างขวาซึ่งท่านใช้ประกอบพิธีศีลจุ่มรับผู้เข้ามาสู่ศาสนาคริสต์ได้รับการเชิญไปใส่หีบแก้วบูชาไว้ที่ Il Gesu
อันเป็นโบสถ์หลักของคณะเยซูอิตซึ่งอยู่ในกรุงโรม อัฐิอันเป็นกระดูกส่วนแขนอีกชิ้นหนึ่งของท่านก็ได้จัดบูชาที่ มหาวิหารเซนต์ปอล แห่งเกาะมาเก๊า
จึงเป็นอันว่าอัฐิเกือบทั้งหมดของท่านเกี่ยวพันกันกับดินแดนใน (อดีต) อาณานิคมของโปรตุเกสทั้งสิ้น
รูปแกะสลักนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1952 ถ้าสังเกตุดีๆ จะเป็นว่ารูปแกะสลัก
ของนักบุญฟรานซิส เซเวียร์ “St. Francis Xavier” นั้นมือขวาขาดเนื่องจากต้นไม้ใหญ่บริเวณนั้นล้ม จะทำให้มือด้านขวานั้นหักลงจนถึงทุกวันนี้ประวัติของนักบุญฟรานซิส เซเวียร์
นักบุญฟรานซิส เซเวียร์ท่านนี้ได้รับฉายาว่าเป็น “อัครสาวกแห่งอินเดีย” (the Apostle of Indies)
ด้วยเหตุที่ท่านเผยแผ่พระศาสนาคู่ขนานไปกับเส้นทางอาณานิคมของพวกโปรตุเกส อันได้แก่ อินเดีย จีน ญี่ปุ่น บอร์เนียวและหมู่เกาะโมลุกกะนักบุญฟรานซิส เซเวียร์ถึงแก่มรณภาพที่เกาะฉางชวน (Shangchaun) ใกล้กับเมืองกวางตุ้งเมื่อปี 1552
ซึ่งท่านถูกฝังชั่วคราวที่นั่นแล้วจึงถูกเคลื่อนย้ายมายังมะละกา และต่อมายังเมืองกัวหรือโกว่า (Goa) ประเทศอินเดียอันเป็นฐานสำคัญ
ในการบัญชาการควบคุมทั้งเอเชียของโปรตุเกสเมื่อปี 1553อัฐิอันเป็นท่อนแขนล่างตลอดรวมไปถึงมือข้างขวาซึ่งท่านใช้ประกอบพิธีศีลจุ่มรับผู้เข้ามาสู่ศาสนาคริสต์ได้รับการเชิญไปใส่หีบแก้วบูชาไว้ที่ Il Gesu
อันเป็นโบสถ์หลักของคณะเยซูอิตซึ่งอยู่ในกรุงโรม อัฐิอันเป็นกระดูกส่วนแขนอีกชิ้นหนึ่งของท่านก็ได้จัดบูชาที่ มหาวิหารเซนต์ปอล แห่งเกาะมาเก๊า
จึงเป็นอันว่าอัฐิเกือบทั้งหมดของท่านเกี่ยวพันกันกับดินแดนใน (อดีต) อาณานิคมของโปรตุเกสทั้งสิ้น
เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ
นักบุญฟรังซิสเซเวียร์ St.Francisco Xavier ถือเป็นนักบุญที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก
จากตำนานที่มีการเล่ากันว่า เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว นักบุญ Farncis ได้สิ้นชีวิตไปเกือบ 1 ปี เขาได้ฝังศพไว้ในมะละกา
ต่อมาได้ขุดศพนักบุญ Farncis ขึ้นมาเพื่อที่จะนำท่านไปฝังที่เมืองกัวร์ ประเทศอินเดีย แต่เมื่อขุดศพท่านขึ้นมาปรากฏว่า
ศพท่านเหมือนคนนอนหลับ จึงได้ทำการขอตำแหน่งนักบุญให้แก่ท่านจากพระราชวังวาติกัน
แต่ทางพระราชวังได้ตอบกลับมาอีก 16 ปี ขอให้ตัดแขนนักบุญ Farncis ไปพิสูจน์ เมื่อตัดแขนปรากฏว่ามีเลือดไหลเหมือน ยังมีชีวิตอยู่
จึงได้รับประกาศให้เป็นนักบุญ St. Francis Xavier และอีก 60 ปีผ่านไป ทางมะละกาต้องการสร้างอนุสาวรีย์ของท่านไว้บนยอดเขา St. Paul Hill
เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ปรากฏว่าในวันหนึ่งเกิดฟ้าผ่าลงมาถูกกิ่งไม้ใหญ่หักลงมาถูกแขนหัก เหมือนแขนข้างที่ตัดส่งให้ พระราชวังวาติกัน
St. Francis Xavier จึงมีผู้นับถือทั่วโลกและมีโรงเรียนในชื่อท่านทั่วโลก
![03](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/03-8.jpg)
มุมมองจากภายนอก
![07](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/07-8.jpg)
ต้นไม้ใหญ่รอบๆ โบสถ์
![10](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/10-8.jpg)
สุดท้าย………… ขอเฉลยภาพที่ถามไว้ก่อนหน้านี้ “กำลังถ่ายรูปอะไร???”
เฉลย : ถ่ายรูปแมวครับขอฝากไว้เป็นภาพสุดท้าย หวังว่าเรื่องราวต่างๆ ที่นำเสนอเป็นที่ถูกใจของสมาชิก MalaysiaFanclub กันทุกคนน่ะครับ
เฉลย : ถ่ายรูปแมวครับขอฝากไว้เป็นภาพสุดท้าย หวังว่าเรื่องราวต่างๆ ที่นำเสนอเป็นที่ถูกใจของสมาชิก MalaysiaFanclub กันทุกคนน่ะครับ
![13](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/13-8.jpg)
![09](http://www.malaysiafanclub.com/wp-content/uploads/2017/01/09-8.jpg)
ฝากแผนที่ท่องเที่ยวไว้ให้ด้วยเลยล่ะกัน
![](http://www.malaysiafanclub.com/images/uncledeng/melaka-malacca/MAP/Melacca-Melaka-Tourist-MapS.jpg)
Categories: สถานที่ท่องเที่ยว มาเลเซีย